ภาษาวิบัติ

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด

  ภาษาวิบัติ  คือ คำพูดที่ไม่ได้รับการยินยอมให้ใช้ทั่วไปในระดับสากล หากแต่ใช้พูดกันเองในกลุ่มเพื่อนฝูงหรือในกลุ่มวัยรุ่น โดยมักจะได้รับการต่อต้านจากผู้หลักผู้ใหญ่ในสังคมอยู่เสมอ 
คำนิยาม
ภาษาวิบัติ  คือ ภาษาที่ถูกแปลงมาจากคำในภาษาเดิม ให้สามารถเขียนได้ในรูปลักษณ์ใหม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ภาษาวิบัตินี้มักจะผิดหลักในการเขียนอยู่เสมอ
ถ้าจะให้แยกแยะได้ง่ายๆ คำที่ไม่อยู่ในพจนานุกรม และไม่เป็นไปตามกฏของหลักภาษาไทยโดยส่วนใหญ่จะเป็นภาษาวิบัติ

    ต่อ ไปนี้ที่นำเสนอ อ่านแบบขำๆ กันไป อย่าไปเครียดมากมายกับกระทู้นี้ อ่านเพื่อให้เรารู้ หรือใครจะนำไปปรับปรุง แก้ไขตัวเองในส่วนไหน ก็ตามแต่ ไม่มีใครว่าอะไรหรอกค่ะ ช่วยๆ กัน ให้สังคมเราน่าอยู่ยิ่งๆ ขึ้นด้วยนะจ้ะ

  ผู้ทำภาษาวิบัติ
    บริษัททุย                         ทุจศิล กินชะมัด     ผู้ใช้เว็บบอร์ดบางคน           ผู้ใช้แชทบางคน     ผู้ใช้ฮิห้าหลายคน              กลุ่มแฟนคลับเอ๊ดจวยและดงบางชินเกรียน     รายการ ไอ้ตุ๋ย ไฮเถิก ทางช่องเนชั่วแชนแนล ในช่วงของรายการที่เป็นการตอบปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์มีชื่อเป็นภาษาวิบัติ ว่า ช่วง คอมนู๋ไม่รู้เป็นไร (วิบัติมาจาก คอมหนูไม่รู้เป็นอะไร) และให้ข้อมูลที่ผิดพลาด เช่นเรื่อง วินเด้าส์ วิสด้า SP1 ที่บอกว่าไม่มีภาษาไทยรองรับ แต่ที่จริงมีมาก่อนหน้านี้แล้ว อื่นๆ ข้อมูลปกปิด

***  เนื้อหาด้านล่างนี้ได้รับการยอมรับเรื่องการใช้ ภาษาวิบัติ ท่านอาจจะงงบ้าง แต่เราก็ขออวยพรให้ท่านอ่านรู้เรื่อง

ภาษาวิบัติแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มที่ใช้เวลาพูด กับกลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน
กลุ่มที่ใช้เวลาพูด –  เป็น ประเภทของภาษาวิบัติที่ใช้ในเวลาพูดกัน ซึ่งบางครั้งก็ปรากฏขึ้นในการเขียนด้วย แต่น้อยกว่าประเภทกลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน โดยมักพูดให้มีเสียงสั้นลง หรือยาวขึ้น หรือไม่ออกเสียงควบกล้ำเลย ประเภทนี้เรียกได้อีกอย่างว่ากลุ่มเพี้ยนเสียง เช่น
   ตะเอง (ตัวเอง)  เตง (ตัวเอง)  ขอบคุง (ขอบคุณ)  แม่ม (แม่มึง)  แสด(สัตว์) พ่อง (พ่อเมิง)     สลัด, แสด, สาด (สัตว์)  สรัด,สรัส(สัตว์ :ออกเสียง ร เรือ ด้วย) 
กลุ่มที่ใช้ในเวลาเขียน  – รูปแบบของภาษาวิบัติชนิดนี้ โดยทั้งหมดจะเป็นคำพ้องเสียงที่หลายๆคำมักจะผิดหลักของภาษาอยู่เสมอ โดยส่วนใหญ่กลุ่มนี้จะใช้ในเวลาเขียนเท่านั้น โดยยังแบ่งได้เป็นอีกสามประเภทย่อย
กลุ่มพ้องเสียง  – รูปแบบของภาษาวิบัติชนิดนี้ จะเป็นคำพ้องเสียง โดยส่วนใหญ่กลุ่มนี้จะใช้ในเวลาเขียนเท่านั้น และคำที่นำมาใช้แทนกันนี้มักจะเป็นคำที่ไม่มีในพจนานุกรม
   เทอ(เธอ)  จัย(ใจ)  งัย(ไง)  นู๋(หนู)  มู๋(หมู)  ปันยา(ปัญญา)  กำ(กรรม)
กลุ่มขี้เกียจพิมพ์  – พวก นี้จะคล้ายๆกับกลุ่มคำพ้องเสียง เพียงแต่ว่าบางครั้งการกด Shift มันน่ารำคาญ พวกนี้เลยขี้เกียจกด แล้วเปลี่ยนคำที่ต้องการเป็นอีกคำที่ออกเสียงคล้ายๆกันแทน
   กุ(กู)  เหน(เห็น)  เปน(เป็น)
ซึ่งสองตัวอย่างหลังนี่ ถ้าเคยเปิดอ่านหนังสือเก่าๆ ดู จะพบว่าไปซ้ำกับอักขรวิธีในสมัยก่อน (ประมาณปี พ.ศ. 2480)
กลุ่มโชว์Inw
   Inw!  Inw(เทพ)  uou(นอน )  เกรีeu(เกรียน)  IInJIISJIISJ (แทงแรงแรง)      IIOUIInJISO (แอบแทงเธอ)
แบบลูกผู้ดีกระแดะ  – จะมี ร์ กำกับไว้ข้างท้ายเสมอ เช่น
   เทอร์ = เธอ  แกร์ = แก  วิคิพีเดียร์ = วิกิพีเดีย  เ***้ยร์, เชี่ยร์ = เ***้ย(คำว่า เชี่ย มีรากศัพท์มาจาก เ***้ย)    คับร์ = คับ(ครับ)  โปรแกรมร์ = โปรแกรม
 

คำวิพากษ์วิจารณ์

  • ภาษาวิบัติไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีเสมอไป บางครั้งมันก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะภาษาไม่ตาย ดังนั้นจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
  • จะ บ้าเรอะ! ภาษาวิบัติมันก็บอกอยู่แล้วว่า “วิบัติ” ไม่ใช่ “วิวัฒนาการ” วิวัฒนาการมันคือการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกว่า ส่วนวิบัติคือการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่
  • ถ้าเปรียบภาษาเหมือนรูปภาพ การวิวัฒนาการคือการที่ศิลปินชื่อดังผู้รัก และเข้าใจการวาดภาพมาเขียนภาพต่อๆกัน 
    ส่วนภาษาวิบัติ คือการที่ใครก็ไม่รู้ผู้ที่ไม่รู้ความสำคัญของการวาดมาเขียนภาพต่อจากเรา
  • เมื่อก่อนไม่มีพจนานุกรม มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่จะเกิดภาษาวิบัติ หรือการวิวัฒนาการของภาษาขึ้น 
    แต่เมื่อมันมีแล้ว แล้วเราจะแกล้งโง่ทำให้มันเปลี่ยนไปทำไมล่ะ?
  • เพราะคนเรามีสมองมีจินตนาการสร้างสรรค์ได้ แล้วพจนานุกรมก็ไม่ใช่กฏ
  • แม้ พจนานุกรมไม่ใช่กฏ แต่มันเป็นหลักที่สมควรจะปฏิบัติ คล้ายกับระเบียบ ข้อแนะนำ หรือจรรยาบรรณ คุณไม่ต้องทำตามก็ได้ แต่มันจะดีกว่าถ้าคุณทำตาม
  • ความ คิดสร้างสรรค์ใช้กับความคิดที่ดี แต่ถ้าเป็นความคิดที่ไม่ดี ความคิดที่แย่ ความคิดที่เสื่อม หรือมาจากความขี้เกียจ มันไม่ได้เรียกว่าความคิดสร้างสรรค์หรอก มันเป็นความคิดหรือไอเดียที่ไม่สร้างสรรค์
  • บางครั้งภาษาวิบัติก็ทำให้คำนั้นๆ ดูจะรุนแรงน้อยลง เช่น อ้ายสาดดด -> ไอ้สัตว์
  • นักปราชญ์ผู้หนึ่งกล่าวไว้ว่า “ผู้ใดละทิ้งภาษา…ผู้นั้นย่อมละทิ้งวัฒนธรรม…ผู้ใดละทิ้งวัฒนธรรม…ผู้ นั้นย่อมละทิ้งทุกสิ่ง”

เหตุผล(และข้อแก้ตัว)ของพวกที่ใช้ภาษาวิบัติ

  1. เพราะ ว่าคำพวกนี้พิมพ์ได้ง่าย เข้าใจนะว่า คำภาษาไทยหลายๆคำอาจจะพิมพ์ยุ่งยากมากเรื่อง ดังเช่น คำว่า เดี๋ยว ก็เปลี่ยนเป็น เด๋ว และคำว่า ก็ ก็เปลี่ยนเป็น ก้อ เหตุผลเหรอ มันพิมพ์ง่ายไงล่ะ
    • แต่คุณอาจจะไม่รู้หรอกนะว่า คุณกำลังทำลายภาษาไทย โดยไม่รู้ตัว
  2. เคย มีวัยรุ่นคนหนึ่ง เคยให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับภาษาวิบัติว่า ที่หันมาใช้ก็เพราะมันดูแนวๆดี ทันสมัย ถูกใจวัยรุ่น ก็เลยถามว่ามันแนวตรงไหน คำตอบที่ได้มาคือ “ก็มันดูเหมือนว่าเด็กไทยมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถคิดค้นคำใหม่ๆได้ขึ้นมาใช้ โดยไม่ต้องเขียนของเก่าให้มันเปลืองหมึก หรือ พิมพ์ให้มันเมื่อย”เพื่อ แสดงอารมณ์ ว่าตอนนี้กำลัง ผิดหวังหรือเบื่อหน่าย อย่างที่วัยรุ่นเค้าเรียกกันว่า”เซ็ง”น่ะแหล่ะ เพราะบางทีถ้าผิดหวังก็อาจจะลากเสียงคำว่า “ไม่” เป็น “ม่าย..ย…” ถ้าอารมณ์ดีก็อาจจะสั้นหน่อยเป็น “มั่ย”
    • ก็ ฟังแล้วคิดว่า มันก็สะดวกสบายแต่ว่า ความสะดวกสบายของคุณกำลัง เป็นความกลุ้มใจของ พ่อขุนรามคำแหง อยู่ เพราะว่า พ่อขุนรามคำแหง ท่านอุตส่าห์คิดค้นภาษาไทยขึ้นมา แต่รุ่นหลังมาทำลาย อย่างที่เค้ากล่าวน่ะแหล่ะว่า “ผู้ใหญ่สร้าง วัยรุ่นทำลาย”
  3. ” ก็มันขำๆดีนี่”
    • เหตุผล นี้ฉันก็ไม่รู้หรอกนะที่ว่า”ขำๆ”น่ะหมายความว่าอะไร แหม…พวกคุณนี่ ถ้าจะอารมณ์ดีเหลือเกิน คิดคำที่เป็นภาษาวิบัติมาใช้กันเนี่ย ป่านนี้พ่อขุนรามคำแหงคงนั่งขำไม่ออกแล้วล่ะ
  4. ” ไม่เห็นเป็นไรเลย มันก็อ่านเหมือนๆกันแหละ”
    • ฉัน อยากจะบอกพวกคุณว่ามันอ่านเหมือนกันก็จริงนะ แต่คอมพิวเตอร์มันต้องใช้ตาอ่านไม่ใช่หูฟังนะ ถ้าเกิดมีเด็กมาอ่านและนำไปใช้เนี่ย นำไปเขียนเนี่ย ถ้าเป็นยังงี้จริงๆนะ ภาษาไทยจะเพี้ยนไปหมดแน่ๆ เชื่อพี่เถอะ
  5. “ก็มันเผลอนี่นา”
    • หลายคนอาจพูดยังงี้ อยากถามว่า ถ้าคุณไม่คิดค้นมันมาและใช้มัน คุณจะเผลอได้เหรอ?
  6. “ก็คำมันดูน่ารักนี่คะ”
    • อยากรู้ว่ามันน่ารักตรงไหนคะเนี่ย? ตายๆๆ…ถ้าคนมองเป็นภาษาที่น่ารักหมดเนี่ย สงสัยว่าคงต้องร้องเพลง”ไปน่ารักไกลๆหน่อย”ซะแล้ว
  7. ” ก็เวลาเล่นMSNมันพิมพ์เร็วทันใจนี่คะ”
    • รู้ แล้วค่ะมันเร็วแต่ว่า…ถ้ามันไม่ ใช่ภาษาวิบัติมันก็ไม่เสียเวลาเป็นชั่วโมงหรอกค่ะ แค่เสียเวลาเล็กๆน้อยๆเพื่ออณุรักษ์แค่นี้ถึงกับทำไม่ได้เลยเหรอคะ?
  8. ” ก็มันเพิ่งหัดพิมพ์ยังพิมพ์ไม่คล่องนี่”
    • อันนี้ไม่ว่านะคะ แต่ถ้าคล่องแล้ว ควรจะพิมพ์คำให้ถูกนะ บางคนไม่คล่อง ก็ไม่คล่องตลอดกาล ใช้ไม่ได้
  9. พิมพ์ให้มันดูสั้นลงเพราะเปลืองเนื้อที่
    • อยากถามอีกว่าคุณซื้อเนื้อที่ในการพิมพ์หรือไงถึงต้องประหยัดเนื้อที่?
  10. ” ทันสมัยดีนี่…คนที่เขาใช้คำเป็นคงไม่วิปริตมาใช้หรอก บางทีพวกคนที่ใช้คำเป็นคงเล่นแชทไม่เป็นหรอก”
  11. ” ก็พอใจนี่/ก็จะพิมพ์ยังงี้พวกเธอมีสิทธิ์ห้ามเหรอ”
    • ค่ะ…ไม่มีสิทธิ์ห้ามใดๆ หรอกสิ่งพวกนี้มันอยู่ที่ตัวคุณค่ะ กิริยาส่อภาษา วาจาส่อนิสัย

 

 

ใส่ความเห็น